อนิจจัง สุขขัง อนัตตา ก็ต่อยอด มาจากคำว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นั่นแหล่ะครับ
กล่าวคือ คำว่า อนิจัง ทุกขัง อนัตตา ..แปลว่า สิ่งทั้งหลายทั้งปวง ที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ...มันเป็นทุกข์ได้ เพราะ ความไม่เข้าใจในสิ่งทั้งหลายที่ไม่เที่ยง ไม่พอใจในสิ่งทั้งหลายที่ไม่เที่ยง ไม่ยอมรับในสิ่งทั้งหลายที่ไม่เที่ยง เมื่อไม่ยอมรับ แล้ว ยัง มีการ ฝืน ดิ้นรน หนี พยายามเอาชนะ พยายามหลีกให้พ้น สิ่งทั้งหลายที่ไม่เที่ยงนี้ แต่ก็ไม่มีใคร หนี ฝีน ดิ้นรน หรือ เอาชนะมันได้ ก็เลย เป็นทุกข์กับมัน ตั้งแต่ เกิด แก่ เจ็บ จนตาย...มีชีวิตที่อยู่กับ ความไม่เข้าใจ ไม่ยอมรับ พยายามเอาชนะ โดยที่ไม่มีทางเป็นไปได้เลย สุดท้าย ก็เลย สรุป ว่า..ทุกสิ่งทุกอย่างทั้งหลายที่ไม่เที่ยงเป็นทุกข์
แล้ว ถ้า จะเปรียบว่า สิ่งที่ไม่เที่ยง ทั้งหลาย ไม่หยุดนิ่งทั้งหลาย มันก็คือ ความเป็นไปตามธรรมชาติล่ะครับ ธรรมชาติทั้งหลาย มันต้อง มีการเปลี่ยนแปลง อยู่อย่างนั้น เพื่อการเคลื่อนไหว เพื่อการถ่ายเท เพื่อการปรับปรุง เพื่อการไม่หยุดนิ่ง เพื่อการเจริญเติบโต เพื่อการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ เพื่อการเพิ่มรูปแบบ เพื่อการเพิ่มทางเลือก เพื่อความเป็นไปได้ เพื่อความไม่น่าเบื่อ เพื่อความตื่นเต้นของการใช้ชีวิต ล่ะครับ
ดังนั้นถ้าหากว่า ความไม่เที่ยงทั้งหลาย ความเปลี่ยนแปลงทั้งหลาย เป็น คุณสมบัติที่แท้จริงของธรรมชาติ มันเป็นธรรมชาติที่ต้อง ไม่หยุดนิ่ง เป็นธรรมชาติที่ต้องเคลื่อนไหว เป็นธรรมชาติที่ต้องเปลี่ยนแปลง เป็นธรรมชาติที่ต้องถ่ายเท ถ้านี่คือรูปแบบของธรรมชาติ ที่ต้องเป็นไป ตามนี้ ...ถ้าหากว่า มนุษย์เรา ที่ไม่ยอมรับ ต่อความไม่เที่ยงนี้ ไม่ยอมรับต่อการเปลี่ยนแปลงที่เป็นอยู่นี้ นั่นก็เหมายความว่า มนุษย์คนนั้น กำลัง มีความคิดที่ฝึนธรรมชาติ พยามยามเอาชนะธรรมชาติแล้วอาจคิดเอาชนะธรรมชาติ ซึ่ง ความคิดและการกระทำ แบบนี้หรือเปล่าครับ ที่ เรียกว่า...เหตุให้เกิดทุกข์ เพราะการไม่ยอมรับ การเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติ ไม่ยอมรับความจริง ตามธรรมชาติ
เมื่อเกิดความไม่พอใจในธรรมชาติ ในสิ่งที่เปลี่ยนแปลง ในสิ่งที่ตนเองควบคุมไม่ได้ ชีวิตก็เลย เป็นทุกข์ กับ สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นทุกข์กับธรรมชาติที่ไม่หยุดนิ่ง เป็นทุกข์กับสิ่งที่ตนเองควบคุมไม่ได้ เป็นทุกข์กับสิ่งที่ตนเองอยากได้แล้วไม่ได้ตามอยาก สิ่งไหนที่ไม่อยากได้กลับ ได้มาเจอ นี่หรือคือ เหตุแห่งทุกข์ ด้วยเพราะ การไม่เข้าใจในธณรมชาติที่ต้องเปลี่ยนแปลง
การที่ลมพัด อากาศถ่ายเท เกิดอุณหภูมิ ร้อน เย็น ... การที่โลกหมุน เกิดฤดูกาลต่างๆ... การที่ น้ำในทะเล มหาสมุทร ในแม่น้ำลำคลอง เกิดการละเหยกลายเป็นไอ ลอยตัวสูงขึ้น ไปเป็นก้อมเมฆแล้วตกลงมาเป็นน้ำฝนที่สะอาดอีกครั้งหนึ่ง...การที่ต้นไม้ มีการเติบโตจากเมล็ดเป็นต้นเล็กและต้นใหญ่ออกดอกออกผล ให้อาหารแก่สรรพสัตว์ เปลี่ยนอากาศเสียเป็นอากาศดี เป็นที่อยู่อาศัย เป็นที่พึ่งที่อาศัย แก่สัตว์โลกทั้งหลาย...การที่ ดวงอาทิตย์ มีขึ้นมีลง มีกลางวันกลางคืน ...การที่คนเรา เกิดมา มีการเจริญเติบโตของร่างกาย ตามวัยต่างๆ และแต่ละวัยก็มีการเรียนรู้ตามวัย และ ประโยชน์ตามวัย นั้น...ถ้านี่คือ ความจริงของธรรมชาติ ที่ จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไม่หยุดอยู่กับที่ ....แล้ว สิ่งที่ไม่เที่ยงเหล่านี้ มันกลายมาเป็นเหตุแห่งทุกข์ ได้ยังไง....
เพราะสิ่งทั้งหลาย ที่เป็นธรรมชาติ ที่เปลี่ยนแปลงตามธรรมชาตินั้น ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่สวยงาม และเป็นธรรมชาติ ที่เป็นจริง ในสิ่งที่มันเกิดขึ้นมานั้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ แสง ธาตุต่างๆ ..และตัวเราเองที่เป็นมนุษย์คนหนึ่งในโลก เป็นส่วนหนึ่งของโลก เกิดมาตามธรรมชาติของโลก และ คนเราก็เป็น ส่วนหนึ่งของธรรมชาติของโลกด้วย ถ้าหากว่า เรายอมรับในธรรมชาติ ในสิ่งที่เปลี่ยนแปลง ทั้งหลาย..ถ้าหากว่าเรา เข้าใจ เข้าถึง พอใจ ในความเป็นธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เที่ยงแท้แน่นอนทั้งหลายได้..เราก็จะ อยู่กับธรรมชาติอยู่กับความเปลี่ยนแปลง ได้โดยไม่ทุกข์กับมันอีกต่อไป
เราก็จะ ไม่เกิด ด้วยความทุกข์กับความจริงของธรรมชาติ เราก็จะไม่ทุกข์กับการเกิด แก่ เจ็บ ตาย..ตามความเป็นจริงของธรรมชาติอีกต่อไป เมื่อเราไม่ทุกข์กับการเกิด การเกิดก็เป็นสุข เมื่อเราไม่ทุกข์กับการแก่ การแก่ก็เป็นสุข เมื่อเราไม่ทุกข์กับการเจ็บ การเจ็บก็เป็นสุข เมื่อเราไม่ทุกข์กับการตาย การตายก็เป็นสุข....นั่นคือ เมื่อเราไม่ทกุข์กับ ธรรมชาติที่ไม่เที่ยงทั้งหลาย ...งั้นก็แสดงว่า ธรรมชาติสิ่งื้ไม่เที่ยงทั้งหลาย เป็นคว่ทสุข...ดังนั้น อนิจังทุกขขังอนัตตา ก็ จะเปลี่ยนมาเป็น..อนิจัง สุขขัง อนัตตา ...ได้เพราะ ความเข้าใจ ความพอใจ การยอมรับ ได้กับ ธรรมชาติ ทั้งหลาย ที่ ไม่เที่ยงแม่แน่นอน ธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไป ตาม ครรลอง ของ กฏธรรมชาติ ที่ว่า มีเกิดขึ้น มีตั้งอยู่ แล้วก็ต้องมีดับไป ...ทุกสิ่ง ล้วนอยู่ภายไต้กฏแห่งความจริงนี้ กฏของธรรมชาตฺนี้ ..กฏของไตรลักษณ์ นี้ นี่เอง
อนิจัง สุขขัง อนัตตา
ที่ผ่านมา การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ความไม่เที่ยงทั้งหลาย คือ เหตุแห่งทุกข์....เมื่อพวกเรารู้แล้ว ว่า ทุกข์เกิดแต่เหตุ พวกนี้ ดังนั้น...ผู้มีปัญญา ทั้งหลาย..ก็ต้อง มีปัญญามองเห็นความจริงที่ว่า...ทุกข์หรือสุข อยู่ด้วยกัน อยู่ที่เดียวกัน ดังนั้น เรามาเปลี่ยน เหตุแห่งทุกข์ให้ กลายมาเป็น เหตุแห่งสุข กันเถอะ ด้วยสมอง สองมือ และปัญญา และ กำลัง ที่เราจะร่วมมือกัน ...เปลี่ยนแปลงเหตุแห่งทุกข์ให้มาเป็นเหตุแห่งสุข และสร้างความสุขให้กันและกัน ได้ โดย จะไม่สร้างความทุกข์ให้กันและกันอีกต่อไป อีกต่อไป
ยินดีเข้าร่วมอุดมการณ์ด้วยใจจริงๆค่ะ
ตอบลบ