ความไม่ประมาท
ความไม่ประมาท....คือ....การมีสติ ระวัง ป้องกัน ดูแลตนเอง ให้ทั่ว ทั้ง หน้า หลัง ซ้าย ขวา บน ล่าง ...มีสติอยู่กับตัว จะได้ไม่เผลอ ไม่หลง ไม่พลาด...ไปกับสิ่ง ที่เคลื่อนอยู่รอบตัว กับสิ่งที่มองไม่เห็น กับสิ่งที่ไม่คาดคิด...กับสิ่งที่ไม่เที้ยงทั้งหลายในโลก
เช่น คนเรา ไม่รู้หรอกว่า ตนเองจะหิว เวลาใด คนอื่นจะหิวเวลาใด ลูกเมียจะหิวเวลาใด ญาติพี่น้องเพื่อน จะหิวเวลาใด....แต่ถ้าตัวเองไม่หิว เราก็ไม่สนใจไม่เตรียมพร้อม ไม่สะสมอาหาร ไม่รอบคอบ ไม่ป้องกัน วันที่ขาดแคลน....ไม่เพื่อตนเองและเพื่อคนอื่น
ความป่วยไข้ไม่รู้ จะเข้ามาตอนไหน ความเจ็บไม่รู้จะเข้ามาตอนไหน ความตายไม่รู้จะเข้ามาตอนไหน ความหิวไม่รู้ มันจะเข้ามาตอนไหน....ไม่รู้ว่าสิ่งเหล่านี้ มันเข้ามาที่ตัวเรา หรือ ลูกเมียเรา ญาติเรา เพื่อนเรา....ตอนไหน..เราก็เลยไม่สนใจ
แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้มาถึง ความหิว ความเจ็บป่วย ความตาย ถ้าเราไม่พร้อมก็จะเกิดทุกข์กับมันได้...ถ้าเราไม่หิว เราไม่เจ๊บป่วย เราไม่ตาย...เราไม่ทุกข์หรอก....แต่ถ้า เป็นลูกเมีย ญาติพี่น้อง เพื่อนเรา พากันหิว พากันเจ็บป่วย พากันตาย...ถ้าเราไม่รับรู้ก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้า ทุกข์ของพวกเขาเหล่านี้ เราเกิดรับรู้ พวกเขามาหาเรา หวังพึ่งเรา หวังอาศัย ข้าวปลาอาหาร น้ำ ยารักษาโรค ความคุ้มครอง จากเรา...อยากให้เราช่วย....ถ้าเราช่วยไม่ได้ ก็ต้องทุกข์กันทั้งสองฝ่ายกันเลยทีเดียว......นี่เอง เพราะ ไม่เตรียมพร้อม เราประมาทคนเดียว ตายทั้งกลุ่ม....
แล้วถ้าเรา มีอาหารเหลือ ยารักษาโรคเหลือ มีการเตรียมพร้อม สะสม เพื่อเอาไว้ ดับทุกข์ ของคนอื่นล่ะ...เมื่อเราช่วยให้คนอื่นพ้นทุกข์ จาก ความหิว ความเจ็บป่วย พ้นจากความอดตาย ได้ล่ะ....เมื่อเราช่วยพวกเขา พวกเขาก็ จะ เป็นมิตรกับเรา ไว้ใจเรา เชื่อใจเรา และ ให้ใจซึ่งกันและกัน...เป็นกัลยาณมิตรต่อกัน
เวลาเราอยู่ร่วมกัน รวมกันอยู่ ความสามัคคี ย่อมเกิด...น้ำใจไมตรี การดูแลเอาใจใสในกันและกัน ห่วงใยดูแลทุกข์สุข ให้กันได้ อาศัยพิ่งพิงกันและกันได้ เหมือนญาติพี่น้อง ..ดังนั้น เมื่ออยู่ร่วมกัน ก็จะ สามัคคีกันทั้งหมู่คณะ...ไม่ต้องเหมือนอยู่ตัวคนเดียว เป็นเหมือนพี่น้อง ญาติกัน ครอบครัวเดียวกัน....ทุกคนก็สบายใจ ไว้วางใจกัน ทุกคนก็จะมีสติอยู่กับ ปัจจุบัน ที่เห็นอยู่ตรงหน้า ของตนเอง ไม่ต้องมาห่วงหน้า พะวงหลัง ไม่ต้อง ระวัง หลัง ซ้าย ขวา บน ล่าง หรือ แม้แต่ข้างหน้า ก็มีเพื่อนที่ดี คอยดูแลเอาใจใส่ห่วงใยกันและกัน
ซึ่ง อยู่กันแบบ ไว้วางใจ สบายใจ ไม่ต้องระวังอะไร ไม่ต้องพะวงอะไร ไม่ต้องห่วงอะไร
สบายกาย สบายใจ....ไม่ต้อง ระวัง
ไม่ต้องระวัง
ไม่ต้องระวัง
ความไม่ประมาท ของ ผม คือ ไม่ต้อง ระวังอะไรเลย...ปลอดภัย สบายกาย สบายใจ ได้แล้วนั่นเอง....เลยพ้นจากความไม่ประมาท และ ประมาท
ที่ผ่านมา การเกิด แก่ เจ็บ ตาย ความไม่เที่ยงทั้งหลาย คือ เหตุแห่งทุกข์....เมื่อพวกเรารู้แล้ว ว่า ทุกข์เกิดแต่เหตุ พวกนี้ ดังนั้น...ผู้มีปัญญา ทั้งหลาย..ก็ต้อง มีปัญญามองเห็นความจริงที่ว่า...ทุกข์หรือสุข อยู่ด้วยกัน อยู่ที่เดียวกัน ดังนั้น เรามาเปลี่ยน เหตุแห่งทุกข์ให้ กลายมาเป็น เหตุแห่งสุข กันเถอะ ด้วยสมอง สองมือ และปัญญา และ กำลัง ที่เราจะร่วมมือกัน ...เปลี่ยนแปลงเหตุแห่งทุกข์ให้มาเป็นเหตุแห่งสุข และสร้างความสุขให้กันและกัน ได้ โดย จะไม่สร้างความทุกข์ให้กันและกันอีกต่อไป อีกต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น